เกิดมาพิการซ้ำซ้อน
“เพดานโหว่ ลิ้นไก่สั้น หัวใจรั่ว ลำตัวคด ใบหน้าบิดเบี้ยว มีขาเล็กลีบ 1 ข้าง รูหูตีบเล็ก และไม่มีรูทวาร” น้องใบเตย ต้องเผชิญความเจ็บปวดและต้องทนทุกข์จากบาดแผลที่เกิดจากการผ่าตัดทุกครั้ง พ่อของน้องใบเตยเปิดใจพร้อมเล่าเรื่องราวความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นกับลูกสาวให้ฟังว่า“สงสารลูกจับใจตั้งแต่วินาทีแรก ที่ได้เห็นหน้าพ่อไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไมลูกเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น ได้แต่ถามตนเองอยู่ในใจว่าจะเลี้ยงดูเขาอย่างไรเพื่อไม่ต้องทุกข์ทรมานจากร่างกายพิการและภาวะแทรกซ้อนที่เสี่ยงถึงชีวิต”
ไม่มี "รูทวาร" ตั้งแต่เกิด
อายุ 1 เดือน ลูกต้องเข้ารับการผ่าตัด “รูทวาร” ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อให้มีช่องทางขับของเสียออกจากร่างกาย โดยแพทย์ต้องเจาะช่องเป็นพิเศษให้ขับถ่ายได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กตัวเล็ก ๆ ต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดจากการรักษาเพื่อแลกกับการมีชีวิตต่อ แม้จะไม่ปกติเช่นคนอื่นๆ พ่อยอมรับว่าเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดของน้องใบเตย ยังฝังอยู่ในความรู้สึกที่นึกถึงครั้งใด หัวใจของผู้เป็นพ่อและแม่แทบแตกสลาย
เด็กเกินกว่าจะเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
2 ขวบเศษ แพทย์ตรวจพบอีกว่าน้องใบเตยมีลิ้นหัวใจรั่ว แต่ด้วยอายุยังน้อย สภาพร่างกายและจิตใจของน้องขณะนั้น แพทย์จึงปรับแผนการรักษาตามอาการ นับว่ายังเป็นโชคดีที่อาการลิ้นหัวใจเริ่ม ดีขึ้นตามลำดับจนแพทย์วินิจฉัยว่าไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด และติดตามอาการต่อเนื่อง
ถอนฟัน 20 ซี่ เพื่อให้เคี้ยวข้าวได้
4 ขวบ น้องใบเตยต้องผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้สามารถสื่อสารและกินอาหารได้ดีขึ้น แพทย์ผ่าตัดและตกแต่งอาการเพดานโหว่ ลิ้นไก่สั้น กรามเบี้ยว น้องใบเตยต้องถูกถอนฟันซี่เล็ก ๆ ในช่องปากออกทั้งหมด 20 ซี่ ผ่าตัดใส่แผ่นพลาสติกปิดช่องเพดานปาก ดึงกราม เพื่อให้สามารถเคี้ยวอาหาร และพูดออกเสียงได้ หลังจากแพทย์ผ่าตัดปรับแต่งโครงสร้างฟันและกราม ก็พบว่าน้องใบเตยยังมีรูหูเล็กผิดปกติ ทำให้มีปัญหาด้านการฟัง แพทย์จึงได้ใส่ท่อพลาสติกขยายรูหูเพื่อให้สามารถได้ยินเสียงได้ชัดเจนขึ้น
มีขาครั้งแรกเมื่ออายุ 8 ขวบ
8 ขวบ น้องใบเตยได้รับ “ขาเทียม” จากโรงพยาบาลศิริราชและสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ แต่เมื่อร่างกายเติบโตขึ้น ขาเทียมที่ใส่เริ่มคับทำให้เจ็บขา น้องใบเตยจึงต้องการมีขาเทียมใหม่ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน ปิดเทอมนี้ (เม.ย.- พ.ค.66) น้องใบเตยและพ่อเตรียมเดินทางไปพบแพทย์ประเมินการรักษาเพื่อทำขาเทียมใหม่และผ่าตัดกระดูกลำตัวที่เริ่มโค้งงอมากขึ้นที่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ
เจ็บแค่ไหนแต่หัวใจยังสู้
“ร่างกายของหนูนั้นไม่เหมือนคนอื่น ทุกครั้งที่หมอรักษาเจ็บมากแต่ต้องอดทน หนูจะได้หายหนูจะไม่ยอมแพ้ในโชคชะตา ถ้ายังมีชีวิตอยู่ หนูจะได้อยู่กับพ่อแม่ จะรักพ่อแม่และจะดูแลตัวเองให้มากที่สุด” น้องใบเตยพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนสดใส ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้เป็นพ่อ ทุกวันนี้น้องใบเตยจึงพยายามช่วยเหลือตัวเอง ทั้ง กินข้าว อาบน้ำ และเปลี่ยนผ้าอ้อมจากของเสียที่ขับออกมาตลอด ในวันที่ไปโรงเรียนน้องใบเตยจะต้องกลับบ้านตอนพักกลางวันเพื่อมาเปลี่ยนผ้าอ้อม
เปลี่ยนความอับอายให้กลายเป็นความหวัง
“โตขึ้นหนูอยากขายของออนไลน์ อยากช่วยพ่อหาเงิน พ่อและแม่ต้องหาเงินมารักษาหนูแล้วหนูจะพยายาม ช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้” นี่คือคำพูดจากใจ “น้องใบเตย” เด็กหญิงหัวใจแกร่ง
ชีวิตน้อย ๆ กำลังรอคอยความเมตตาจากท่าน
ท่านช่วยเด็กด้อยโอกาสที่ต้องเผชิญวิกฤติโรคร้ายและอาการป่วยเรื้อรังได้ ขอเพียงท่านตอบรับความช่วยเหลือ มูลนิธิฯ จะดำเนินการกู้วิกฤติชีวิตเด็ก ๆ อย่างเร่งด่วน
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม